แม่มดแวมไพร์แห่งบาร์เซโลนา

แม่มดแวมไพร์แห่งบาร์เซโลนา

คดีนี้เป็นตำนานฆาตกรต่อเนื่องที่น่ากลัวที่สุดในสเปนคนนึง “แม่มดแวมไพร์แห่งบาร์เซโลนา” โดยที่เธอทำอาชีพเป็นแม่มดขายยาและเครื่องสำอาง และเครื่องสำอางกับยาที่เธอขายก็คือทำมาจากศพเด็กที่ถูกฆาตกรรม

ย้อนกลับไปในสมัยก่อนนานมากที่ประเทศสเปน มีเด็กผู้หญิงคนนึงชื่อว่า เอนริเกรต้า เธอโตมาเป็นเด็กสาวหน้าตาดี เธอตัดสินใจบอกลาบ้านเกิดแล้วเดินทางไปเมืองใหญ่อย่างบาร์เซโลนา เธอได้ทำงานเป็นคนรับใช้กับพี่เลี้ยงเด็กในบ้านคนรวย แต่เธอก็รู้สึกเบื่อหน่าย เพราะอาชีพคนรับใช้มันได้เงินน้อย เธอเลยเปลี่ยนมาทำอาชีพเป็นโสเภณี เนื่องจากยุคนั้นเขตหนึ่งบาร์เซโลนาก็ถือว่าเป็นศูนย์รวมโสเภณีของยุโรป เอนริเกรต้าเลยหาลูกค้าทำรายได้ได้ไม่ยาก ด้วยความสวยเธอก็ได้กลายเป็นโสเภณีชั้นสูง และได้แต่งงานกับศิลปินท่านหนึ่ง แต่แต่งได้ไม่นานก็เลิกกัน

ในปี 1902 เอนริเกรต้าที่เริ่มแก่ตัวลงก็ตัดสินใจเอาเงินเก็บมาลงทุนเปิดซ่องเองซะเลย แล้วก็ประสบความสำเร็จด้วย มีลูกค้าเป็นพวกคนรวยจากแทบทุกวงการแวะมาใช้บริการ ส่วนสำคัญที่ดึงดูดลูกค้าให้มาก็คือโสเภณีเด็ก เอนริเกรต้าจะเป็นแม่เล้าจัดหาเด็กทั้งหญิงและชายมาให้กับลูกค้าเอง ตอนกลางวันเธอจะแต่งตัวมอมแมม ปลอมตัวเป็นขอทานไปเดินแถวชุมชนแออัด พอเห็นเด็กคนไหนดูพ่อแม่ไม่สนใจก็จะแอบไปจับมา เด็กหลงทางเด็กกำพร้าก็โดนจับหมด บางทีพ่อแม่ก็เต็มใจขายลูกยกลูกให้เอนริเกรต้าเองด้วย เพราะช่วงนั้นบาร์เซโลนาเป็นเมืองที่เจริญก้าวหน้าแต่แออัดสุดๆ เด็กที่โดนจับก็มีตั้งแต่ไม่กี่ขวบไปจนถึงวัยรุ่นตอนต้น เกรต้าก็จะบังคับให้เด็กขายตัว ถ้าไม่ทำตามจะถูกลงโทษ ลูกค้าก็ยินดีจ่ายเงินให้เอนริเกรต้าอย่างดี จนเธอมีชีวิตสองมุม ตอนเช้าปลอมเป็นขอทาน กลางคืนใช้ชีวิตหรูหราเป็นแม่เล้าโสเภณี นอกจากนี้เธอยังรับงานเป็นแม่มดหมอผีอีกด้วย

ในช่วงนั้น (1900s) มีโรคภัยหลายอย่างที่คนกลัวกัน ทั้งวัณโรค ปอดอักเสบ ฯลฯ ถึงจะมีการแพทย์ที่พัฒนาขึ้นแล้ว แต่คนก็ยังกลัวตายจนทำให้มีอาชีพหมอผีแม่มด เอนริเกรต้าก็ตั้งตัวเองเป็นแม่มดที่ทำยาสูตรพิเศษรักษาโรค แถมขายครีมและเครื่องสำอางลดอายุต้านริ้วรอยให้คนรวยๆ แต่ใช่ว่าธุรกิจของเธอจะลอยนวลจากสายตาเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่บุกจับเธอข้อหาทำซ่องโสเภณีเด็ก แต่เธอก็รอดทุกครั้งเพราะลูกค้าก็คือพวกนักการเมืองคนสำคัญทั้งนั้น เอนริเกรต้าก็ได้ใจดำเนินอาชีพแม่มดจับเด็กร่วมสิบกว่าปี ทั่วทั้งเมืองก็มีแต่เด็กหายตัวไป

Teresita with the policemen who saved her

ชาวบ้านต่างหวาดกลัวกัน ลือว่ามีคนจับเด็ก แต่ถึงลืออย่างไรก็ยังจับคนร้ายไม่ได้ เอนริเกรต้าก็เลยจับเด็กได้ตามสบาย จนไปจับเด็กคนหนึ่งมาชื่อว่า เทเรสซิต้า ถึงแม้ว่าเด็กหญิงเทเรสซิต้าจะไม่ได้มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย แต่พ่อแม่ก็รักเธอมากและยืนยันจะตามหาเธอจนเจอให้ได้  เรื่องที่เธอหายตัวไปเลยไม่เงียบเหมือนเด็กคนอื่น ทั่วทั้งเมืองรวมใจกันตามหาตัวเทเรสซิต้า จนมีชาวบ้านคนหนึ่งเห็นเด็กคนนึงอยู่ข้างหน้าต่างบ้านเอนริเกรต้า ก็คิดว่าอาจจะเป็นเทเรสซิต้าก็ได้ เลยตะโกนแต่เอนริเกรต้าก็รีบมาปิดหน้าต่าง ชาวบ้านเลยรีบไปแจ้งตำรวจ ตำรวจก็เลยบุกเข้าไปในบ้านของเอนริเกรต้า ตำรวจก็ได้เจอเด็กหญิงสองคน คนหนึ่งคือเทเรสซิต้าจริงๆ แต่โดนตัดผมเลยดูไม่เหมือนเดิม อีกคนชื่อว่า แองเจลริต้า ก็ได้ช่วยออกมา เทเรสซิต้าเล่าว่าเอนริเกรต้าหลอกเธอมาบอกว่าจะให้กินขนม แล้วก็โดนจับมาขังไว้ในบ้านกับแองเจลริต้า ส่วนคำบอกเล่าของแองเจลริต้านั้นน่ากลัวกว่าหลายเท่า เธอเล่าว่าเธออยู่ก่อนที่เทเรสซิต้าจะมา เด็กทุกคนที่โดนจับมาต้องเรียกเอนริเกรต้าว่าแม่ มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งโดนจับมาแล้วดื้อเลยโดนเอนริเกรต้าจับฆ่าในห้องครัว แถมเธอยังเก็บเสื้อผ้าเปื้อนเลือดจำนวนมากไว้อีกด้วย ตำรวจได้ฟังเรื่องก็เลยบุกไปบ้านเอนริเกรต้าอีกครั้ง และพบกับภาพอันน่าสยดสยอง ในบ้านของเอนริเกรต้ามีส่วนที่ซ่อนอยู่ มีเสื้อผ้าเปื้อนเลือดถูกเก็บไว้จริง และมีห้องที่เป็นเหมือนห้องทดลองที่เก็บซากกระดูกเด็กไว้ มีชิ้นส่วนของศพเด็กถูกดองเก็บไว้ เลือด ไขมัน เส้นผม มีเครื่องสำอางและยาที่ผสมขึ้นจากไขมันและกระดูกศพ บรรจุในขวดเตรียมออกขาย ก็คือสยองมากๆ บ้านหลังอื่นของเอนริเกรต้าก็มีศพและชิ้นส่วนของเด็กที่ถูกพบเหมือนกัน มีหนังสือรวมสูตรทำยาและเครื่องสำอางที่เขียนเป็นรหัสลับไว้อีก เอนริเกรต้าถูกจับทันที ชาวบ้านก็เดือดมากอยากเห็นเอนริเกรต้าโดนประหารชีวิต เอนริเกรต้าก็พยายามฆ่าตัวตาย แต่โดนชาวคุกฆ่าตายซะก่อนที่จะได้ถูกศาลตัดสินโทษ

3961305

เอนริเกรต้าเสียชีวิตในปี 1913 ปิดตำนานเครื่องสำอางมนุษย์ มีข่าวลือหลายเรื่องของเอนริเกรต้า ตั้งแต่เรื่องที่ว่าเธอเป็นแม่มดจริงๆ ไปจนถึงว่าเธอดื่มเลือดของเด็กบริสุทธิ์ด้วยเพื่อที่จะรักษาโรค เรื่องของเธอเลยกลายเป็นนิทานแม่มดที่พ่อแม่เอามาเล่าให้ลูกฟัง แต่ก็มีทฤษฎีที่ว่าเธออาจไม่ได้เป็นคนจับเด็กทั้งหมดที่หายไปตลอดหลายปี แต่เป็นแพะรับบาปให้กับภาพลักษณ์ของบาร์เซโลนาตอนนั้นที่มีการค้ามนุษย์และเด็กเยอะมาก การที่เอนริเกรต้าถูกจับและถูกเบลมว่าเป็นตัวจับเด็กก็จะทำให้มองว่าเป็นฝีมือเธอ แทนที่จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยในเมืองนี้ และสาเหตุที่เอนริเกรต้าเสียชีวิตยังมีคนตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นฝีมือของกลุ่มลูกค้าชนชั้นสูงที่ไม่อยากให้เรื่องแดงด้วย เลยให้เธอตายในคุกดีกว่าที่จะได้ขึ้นศาลและเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดออกมา เพราะเอนริเกรต้ามีบันทึกที่เขียนเป็นรหัสที่คาดว่าอาจเป็นรายชื่อลูกค้าของเธอทั้งหมดที่มีมาตลอดหลายปี